เว็บไซต์ kenh14.vn รายงานว่า ฟานถีไม นักธุรกิจสาวชาวเวียดนาม เจ้าของธุรกิจคลินิกเสริมความงาม Mailisa ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่กำลังเป็นประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์ เมื่อเธอให้เพื่อนสนิทซึ่งเป็นนักร้องชื่อดังยืมรถหรูไปใช้ แต่สุดท้ายกลับพบว่ารถถูกนำไปใช้เป็นหลักประกันเพื่อแลกกับเงิน 7 พันล้านดอง (ราว 9.2 ล้านบาท)
โดย ฟานถีไม ได้โพสต์ข้อความตั้งคำถามบนโซเชียลว่า “ถ้าคุณให้คนรู้จักยืมรถไป แล้วมารู้ทีหลังว่ารถถูกนำไปแลกเงิน 7 พันล้านดอง คุณจะทำอย่างไร?” ซึ่งทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย
เธอเล่าว่า ตัวเองและสามีมีเพื่อนสนิทที่เป็นนักร้องชื่อดัง วันหนึ่งเพื่อนคนนี้ติดต่อมา อ้างว่ามีน้องชายต้องเดินทางจากกรุงฮานอยลงใต้เพื่อทำงานการกุศล และต้องการยืมรถไปใช้ ด้วยความไว้ใจ เธอและสามีจึงอนุญาตให้ยืมโดยไม่คิดมาก แต่หลังจากผ่านไป 7 วัน ก็ยังไม่มีการนำรถมาคืน และในวันที่ 8 เธอกลับได้รับข้อมูลว่ารถของเธอถูกนำไปใช้เป็นหลักประกันเพื่อขอสินทรัพย์
ในสถานการณ์เช่นนี้ หลายคนอาจเลือกแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่เธอเลือกใช้แนวทางที่ต่างออกไป โดยนัดคู่กรณีมาพูดคุย และให้โอกาสแก้ไขปัญหา เธอชี้ให้เห็นว่าหากมีการดำเนินเรื่องผ่านระบบกฎหมาย อีกฝ่ายอาจได้รับผลกระทบหนัก แต่เธอก็ไม่ได้ต้องการให้เรื่องบานปลาย
ต่อมา เพื่อนนักร้องติดต่อกลับมาขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม อ้างว่าจำเป็นต้องใช้เงินอีก 3 พันล้านดอง (ราว 3.9 ล้านบาท) เพื่อดำเนินการนำรถกลับคืน แต่ในเวลานั้นเธอไม่มีเงินจำนวนดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เธอพยายามช่วยเหลือเป็นครั้งสุดท้าย โดยให้เงิน 2 พันล้านดอง (ราว 2.6 ล้านบาท) พร้อมกับสมาร์ตโฟนแบรนด์หรู Vertu มูลค่าราว 1 ล้านบาท เพื่อให้ไปใช้แก้ปัญหา
เมื่อเรื่องราวถูกเผยแพร่ออกไป ก็กลายเป็นกระแสร้อนแรงบนโซเชียล มียอดรับชมมากกว่า 2.7 ล้านวิว หลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง บางส่วนตั้งคำถามว่าเรื่องนี้เป็นความจริงหรือไม่ ขณะที่บางคนก็พยายามคาดเดาตัวตนของนักร้องคนดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ฟานถีไม ยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความจริง และมีพนักงานของเธอหลายคน รวมถึงคนขับรถที่รู้เห็นเหตุการณ์ ส่วนเรื่องที่ว่าคู่กรรมนำรถไปใช้เป็นหลักประกันได้อย่างไรโดยไม่มีเอกสาร เธอกล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวไม่ได้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งหากเธอจะดำเนินการทางกฎหมายก็สามารถทำได้