1.”พริก” สมุนไพรที่ใช้ในทางการแพทย์มาอย่างยาวนาน เนื่องจากภายในผลพริกซึ่งมีเมล็ดติดอยู่จะมีสารแคปไซซินที่ก่อให้เกิดความเผ็ด ความเผ็ดร้อนนี้จะทำให้ร่างกายขับเหงื่อและขจัดสารพิษออกจากร่างกายได้ โดยจะนำสารแคปไซซินที่สกัดได้จากผลพริกมาใช้เป็นส่วนผสมของยาต่างๆ ทั้งชนิดรับประทานและทาภายนอก เช่น ยาแก้หวัด และสามารถรักษาอาการไอได้ด้วย
วิธีทำคือ ให้นำต้นพริก ยกเว้นในส่วนของเม็ดพริก มาล้างหน้าให้สะอาดจากนั้นนำมาสับเป็นท่อนสั้นๆ แล้วตากแดดจนแห้ง นำต้นพริกที่ตากแดดจนแห้งแล้วประมาณ 15 กรัมมาต้มกับน้ำ 1 ลิตรให้เดือด รินเอาแต่น้ำมาดื่มก่อนอาหาร โดยดื่มครั้งละ 1 แก้ว ช่วงเวลาเช้า-เย็น สรรพคุณของมันจะช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น
2.”กะเพรา” สมุนไพรที่คนไทยนิยมใช้แก้ไอ “แก้หวัด” แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ มีสรรพคุณช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
วิธีทำ คือ นำใบกะเพรามาทำเป็นอาหาร หรือให้นำ เอาใบกระเพราสด(กระเพราแดงหรือกระเพราเขียวก็ได้) 1-2กำมือไปต้มใส่น้ำพอท่วมต้ม โดยต้มจนให้เหลือน้ำเพียงครึ่งหนึ่ง จากนั้น เอาน้ำมาดื่ม โดยดื่มวันละ 2-3 แก้ว และ ดื่มได้เรื่อยๆจนกว่าอาการจะดีขึ้น การต้มควรใช้เพียงครั้งเดียวไม่ควรต้มซ้ำ
3.”มะขามป้อม” ตามตำรับยาไทยสามารถ “แก้หวัด” ผลมะขามป้อมมีสรรพคุณ”แก้หวัด” แก้ไอได้ดี เป็นที่รู้กันในทุกประเทศที่มีมะขามป้อม ซึ่งอาจเนื่องมาจากวิตามินซีหรือสารในกลุ่มแทนนิน อาการเป็นหวัด ไอ เจ็บคอ ปากคอแห้ง
วิธีทำ คือ ให้ใช้ผลสด 15-30 ผล คั้นเอาน้ำมาจากผลหรือต้มทั้งผลแล้วดื่มแทนน้ำเป็นครั้งคราวหรือจะทานเป็นผลสดจิ้มกับเกลือและรับประทาน
4.”หัวหอมใหญ่” จะช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีและช่วยขับเสมหะ มีสารเคอร์ซิติน (Quercetin) ซึ่งเป็นยาขยายหลอดลม ที่มีฤทธิ์ต้านไวรัสไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกัน ฤทธิ์ต้านฮิสตามีน ช่วยขยายหลอดลม และหอมยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายจึงสามารถรักษาอาการหวัด
วิธีทำ คือ ล้างหัวหอมใหญ่ให้สะอาด และนำไปห่อผ้าขาวบางแบบหลวม ๆ ใช้สูดดม หรือจะทำไปฝากคนที่มีอาหารหวัดคัดจมูก จะช่วยให้อาการดีขึ้น
5.”ตะไคร้” สามารถใช้รักษาหวัด หวัดใหญ่ แก้ไข้ แก้ปวดหัว ปวดท้อง เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกันได้ดีเยี่ยม ช่วยต้านอนุมูลอิสระ แก้อักเสบ และต้านไวรัสไข้หวัด
วิธีทำ คือ บุบต้นตะไคร้ 3-4 ต้นให้แตก นำมาต้มกับน้ำเปล่า 1 ลิตรให้เดือด แล้วยกลง รินเอาแต่น้ำมาจิบบ่อยๆ ตลอดทั้งวัน เพราะตะไคร้ก็เป็นสมุนไพรแก้คัดจมูกที่ได้ผลดีเช่นกัน แถมยังช่วยแก้อาการน้ำมูกไหลจากหวัดได้อีกด้วย
6.”ขิง” มีสรรพคุณแก้ไอและขับเสมหะ โดยมีการทดลองพบว่า น้ำขิงแก่ ต้มน้ำเดือนนาน 30 นาที ทำให้เม็ดเลือดขาวชนิดแมคโครฟาส จับกินไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ดีขึ้น
วิธีทำ คือ เลือกขิงแก่ นำมาหั่นให้เป็นแว่น ตำและคั้นเอาน้ำ หรือนำมาต้มกับน้ำเปล่า 1 ลิตร โดยต้มประมาณ 5 นาที แล้วตักเอาขิงออก เอาแต่น้ำขิงมาดื่มขณะอุ่นๆ โดยดื่มครั้งละ 1 แก้ว เช้า กลางวันและเย็น น้ำขิงจะช่วยลดน้ำมูกลงได้ หรือจะนำมาผสมกับน้ำมะนาว เติมเกลือเล็กน้อย แล้วดื่ม
7.”มะนาว”ผลไม้รสเปรี้ยวที่อุดมไปด้วยวิตามินซี และสารอาหารมากมายที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกายและระบบภูมิคุ้มกัน มะนาวสามารถบรรเทาอาการจากหวัดได้ โดยเฉพาะอาการเจ็บคอ ช่วยให้หายใจโล่ง ลดอาการไอ ลดเสมหะ โดยต่างประเทศมีการใช้มะนาวเหลืองหรือเลมอนเป็นยาพื้นบ้านในการแก้หวัดด้วย แต่การศึกษาในด้านนี้ยังคงมีจำกัด จึงยังไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่ามะนาวจะช่วยรักษาหวัดได้
วิธีทำ คือ นำมะนาวมาคั้นให้ได้น้ำ จากนั้นให้ผสมกับน้ำผึ้งและนำมาชงกับน้ำร้อน ดื่มอุ่น ๆ หายใจโล่ง บรรเทาอาการไอได้ดี
ทั้งนี้ การบริโภคมะนาวเป็นอาหารในปริมาณที่พอเหมาะนั้นค่อนข้างปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่ยังไม่มีข้อมูลด้านความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือเพียงพอเกี่ยวกับการบริโภคเป็นปริมาณมาก และการบริโภคในระหว่างที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร จึงควรหลีกเลี่ยงการบริโภคมะนาวในปริมาณมาก เพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้
8.”หอมแดง” มีสรรพคุณช่วยให้หายใจสะดวกและโล่งขึ้น เป็นสมุนไพรที่คนเฒ่าคนแก่นิยมนำมาทุบให้แตกแล้ววางไว้ใกล้ ๆ ศีรษะเพื่อให้เด็กสูดดมตามความเชื่อว่าช่วยรักษาหวัดได้ ในทางวิทยาศาสตร์หอมแดงมีสารประกอบกลุ่มออร์กาโนซัลเฟอร์ (Organosulfur) เช่น ไดแอลลิลไดซัลไฟด์ (Diallyl Disulphide) ไดแอลลิลไตรซัลไฟด์ (Diallyl Trisulfide) เอสอัลลิลซิสเทอีน (S-Allyl Cysteine) และอัลลิซิน (Allicin) เชื่อว่ามีคุณสมบัติต้านการอักเสบและอาจช่วยรักษาโรคหวัดได้
วิธีทำ คือ นำหัวหอมแดงมาทุบให้พอบุบ จากนั้นห่อด้วยผ้าขาวบาง แล้วนำไปวางไว้ใกล้ ๆ หมอนของผู้ที่เป็นหวัด รับรองจมูกโล่ง หายใจคล่องแน่นอนค่ะ
9.”กระเทียม” เป็นพืชที่นิยมนำมาใช้รักษาหวัดอย่างยาวนาน เพราะเชื่อว่ากระเทียมอาจมีคุณสมบัติต้านเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย อีกทั้งยังอุดมไปด้วยสารชีวภาพหลากชนิด เช่น อาร์จีนีน (Arginine) โอลิโกแซ็คคาไรด์ (Oligosaccharides) ฟลาโวนอยด์ (Flavoniods) ซีลีเนียม (Selenium) และอัลลิซิน (Allicin) ที่อาจช่วยรักษาหวัดได้การใช้กระเทียม จะช่วยรักษาอาการเจ็บคอ มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย และช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
วิธีทำ คือ ให้นำกระเทียมมาปอกเปลือกและสับให้ละเอียด จากนั้นก็รับประทานแบบสด ๆ กันไปเลย
อย่างไรก็ตาม การบริโภคกระเทียมอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น ปากเหม็น มีกลิ่นตัว แสบร้อนกลางอก ปวดท้อง โดยเฉพาะการบริโภคกระเทียมสดอาจทำให้อาการเหล่านี้ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น
10. “ฟ้าทะลายโจร” ปลูกง่าย ราคาถูก จากการเปรียบเทียบในยาชนิดอื่นที่ผู้ป่วยโควิดใช้ต่อราย พบว่า พาราเซตามอล ราคา 60 บาท ผลที่ได้ คือ ลดไข้ , ฟ้าทะลายโจร 180 บาท (ใช้ 5 วัน) ผลที่ได้ คือ ลดไข้ ต้านการอักเสบ ฆ่าเชื้อไวรัส ขณะที่ ฟาวิพิราเวียร์ 4,800 บาท ผลที่ได้ ฆ่าเชื้อไวรัส
ดังนั้น การใช้ “ฟ้าทะลายโจร” น่าจะเป็นทางเลือกในการยุติโรค และลดการใช้ฟาวิพิราเวียร์ ลดอัตราการเสียชีวิต ลดการเข้าไอซียูซึ่งต้องใช้มูลค่าหลักล้านต่อราย อย่างไรก็ตาม ต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ และ ใช้เพียง 5 วันเท่านั้น
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับ สมุนไพร ทั้ง 10 ชนิด ที่ผมนำมาบอกกล่าว ท่านผู้อ่าน ซึ่ง สมุนไพร ทั้ง 10 ชนิดนี้ ล้วนมีสรรพคุณ และประโยชน์ ในการรักษา และดูแลสุขภาพ ได้เป็นอย่าง หวังว่า สาระความรู้เรื่องนี้ จะเป็นประโญชน์ แก่ท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อย ยังไงแล้ว ก็ขอฝากเป็นกำลังใจ ในการ กดไลท์ กดแชร์ ให้คนอื่นๆ ได้รับรู้ด้วยนะครับล ขอบคุณครับ จากใจ ผู้เขียน