บอนสีมีลักษณะทั่วไปคือ เป็นไม้ประดับล้มลุกอวบน้ำ มีหัวอยู่ใต้ดินไว้เก็บสะสมอาหาร แตกใบเป็นกอ มีก้านใบสูงยาวเหนือพื้นดิน ใบใหญ่แผ่กว้าง รูปทรงและสีสันของใบมีหลายแบบขึ้นอยู่กับสายพันธุ์
อาทิ ใบรูปหัวใจ ใบทรงกลม ใบหอก และอื่น ๆ แถมแต่ละชนิดก็มีสีสันและลวดลายที่โดดเด่นและสวยงามแตกต่างกันไป บอนสีได้รับการขนานนามว่าเป็นราชินีแห่งไม้ประดับ หรือ Queen of The Tears Plant
ประเภทบอนสี : บอนสีแบ่งประเภทตามลักษณะของใบ มีทั้งหมด 4 ประเภทด้วยกัน คือ
– บอนใบไทย (Thai-Native Leaf Caladium) : บอนสีไทยโบราณ ลักษณะใบเป็นรูปหัวใจ หูใบยาว เว้าลึกเกือบถึงสะดือ (ส่วนปลายก้านใบที่จรดกับเส้นกลางใบ) ก้านใบอยู่กึ่งกลางใบ มีทั้งปลายใบแหลมและปลายใบมนขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ใบแผ่กว้าง มีขนาดใหญ่ สีสันสวยงาม ใบดกและไม่ทิ้งใบ
– บอนใบกลม (Round-Leaf Caladium) : สายพันธุ์บอนสีที่พัฒนามาจากบอนใบไทย ลักษณะใบกลมหรือรี หูใบสั้น ปลายใบมน และก้านใบกลมอยู่กึ่งกลางใบ คล้ายกับใบบัว
– บอนใบยาว (Long- Leaf Caladium) : ลักษณะใบทรงหัวใจคล้ายกับบอนใบไทยเช่นเดียวกัน แต่แตกต่างกันที่ใบของบอนสีใบยาวจะเรียวยาวและมีปลายใบแหลมกว่า หูใบยาวฉีกถึงสะดือ และสามารถแยกได้อีก 3 ลักษณะย่อยคือ บอนใบยาวธรรมดา บอนใบยาวรูปหอก และบอนใบยาวรูปใบไผ่
– บอนใบกาบ (Sheath-Leaf Caladium) : ลักษณะคล้ายกับบอนใบไทย แต่บอนใบกาบจะมีก้านใบที่แผ่แบนตั้งแต่โคนใบไปถึงแข้ง (ใบขนาดเล็กที่ยื่นออกจากกาบใบ อยู่กึ่งกลางของก้านหรือต่ำกว่าใบจริงเล็กน้อย)
นอกจากนี้ยังมีการแบ่งประเภทบอนสีตามลักษณะของสีสัน ได้แก่ บอนไม่กัดสี ใช้เรียกบอนที่ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงไปจากต้นกำเนิดสายพันธุ์ ส่วนบอนกัดสี เป็นบอนที่มีการเปลี่ยนแปลงของสีสันเมื่อโตเต็มวัย
เช่น เปลี่ยนจากใบอ่อนสีเขียวเป็นใบสีแดงหรือมีจุดแต้มเพิ่ม สำหรับบอนป้าย คือบอนที่มีแถบแดงพาดบนใบพื้นเขียว และบอนด่าง หรือบอนที่มีสีอื่น เช่น ขาว ขาวอมแดง หรือสีเหลือง เป็นด่างอยู่บนพื้นใบเขียว
วิธีปลูกต้นบอนสี
ดิน : การปลูกบอนสีในกระถาง ควรใช้ดินร่วนผสมวัตถุอินทรีย์ หรือดินขุยไผ่ ผสมใบทองหลาง ใบมะขาม หรือใบก้ามปู ด้วยอัตรา 2:1 เพราะบอนสีจะเจริญเติบโตและออกใบสวยงามในดินโปร่ง ระบายน้ำได้ดี
และมีแร่ธาตุสูง และมีไม้ค้ำที่ก้านใบ เพื่อให้ก้านแตกกอเป็นระเบียบสวยงาม ไม่หักหรืองอ
แต่หากต้องการปลูกเป็นแปลงใหญ่เพื่อการขยายพันธุ์ ควรใช้ดินร่วนปนทรายผสมปุ๋ยคอก แกลบดิน และขุยมะพร้าว ในอัตรา 1:1:1 และนำฟางข้าวมาคลุมแปลงไว้ เพื่อลดการระเหยของน้ำ
น้ำ : ช่วงฤดูร้อนหรือสภาพอากาศปกติทั่วไป ควรรดน้ำตอนเช้าวันละ 1 ครั้ง หลีกเลี่ยงการรดน้ำใกล้โคนต้น เพราะอาจจะทำให้ก้านใบหักได้ นอกจากนี้ควรมีจานรองกระถางหล่อน้ำไว้ตลอดเวลา เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่ชอบความชื้นสูง
ทั้งนี้ ควรลดการให้น้ำช่วงฤดูหนาว เพราะเป็นช่วงพักตัวและทิ้งใบ ระหว่างนี้ให้นำหัวบอนสีมาทำความสะอาด ชุบน้ำยาป้องกันเชื้อรา นำไปผึ่งให้แห้งประมาณ 15 วัน
แล้วนำไปเก็บในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก เมื่อถึงฤดูปลูกหรือบอนสีเริ่มผลิใบค่อยกลับมารดน้ำตามปกติ
แสงแดด : ควรปลูกบอนสีในที่ที่มีแสงแดดรำไร เช่น แดดตอนเช้าช่วง 09.00-10.00 น. หากโดนแดดร้อนจัดมากเกินไปจะทำให้เกิดใบไหม้หรือสีซีดได้ สำหรับการปลูกบอนสีในบ้านควรวางในที่ที่มีแดดรำไร เช่น ใกล้หน้าต่าง
และหมั่นหมุนกระถางเข้าหาแสง หรือนำกระถางปลูกไปวางกลางแจ้งสัปดาห์ละครั้ง และหลีกเลี่ยงการปลูกในห้องแอร์ เพราะอาจจะทำให้บอนพักตัวและทิ้งใบ
ปุ๋ย : ใช้ได้ทั้งปุ๋ยธรรมชาติ ปุ๋ยคอก และปุ๋ยเคมีสูตร 16-16-16 แต่ไม่ควรให้ปุ๋ยทางใบ เพราะจะทำให้ใบไหม้ได้ และหมั่นเปลี่ยนดินปีละครั้งหรือเมื่อดินแน่น
วิธีขยายพันธุ์บอนสี
แยกหน่อ : การแบ่งหน่อของต้นบอนสีจากต้นแม่ สามารถทำได้เมื่อต้นมีอายุตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป โดยใช้มีดตัดเอาหน่อจากต้นเดิมมาแยกปลูกในกระถางใหม่
การผ่าหัว : วิธีขยายพันธุ์บอนสีที่นิยมมากที่สุด โดยการนำหัวที่มีอายุไม่เกิน 1 ปี มาผ่าให้ติดตา แล้วนำไปชำในทรายหยาบสะอาด อิฐมอญทุบละเอียด ขุยมะหร้าว หรือแกลบดำ
จากนั้น รดด้วยน้ำยาป้องกันเชื้อรา นำไปผึ่งไว้ในที่ร่ม เมื่อหน่อแตกรากและผลิใบประมาณ 1-2 ใบ ค่อยย้ายไปปลูกในกระถาง
เพาะเมล็ด : ส่วนมากจะใช้เพาะเมล็ดบอนสีเมื่อต้องการผลิตลูกผสม โดยหว่านเมล็ดลงในกระบะปลูก ตั้งกระบะในที่ที่มีแดดรำไรและคลุมด้วยถุงพลาสติก เพื่อรักษาความชื้นและป้องกันมด-แมลงมารบกวน แต่เป็นวิธีที่ใช้เวลานาน จึงไม่ค่อยนิยมเท่าไรนัก
เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ : โดยการนำเนื้อเยื่อของบอนสีไปเพาะในห้องที่มีการควบคุมปัจจัยการเจริญเติบโต เป็นวิธีที่มีขั้นตอนยุ่งยาก ซับซ้อน และใช้ต้นทุนค่อนข้างสูง แต่ก็ขยายพันธุ์ได้จำนวนมากต่อครั้ง และมีโอกาสได้บอนสีกลายพันธุ์สูงด้วยเช่นกัน